วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

6. กระบวนการจัดการความรู้

http://203.157.19.120/km_ict/?p=392  รวบรวมไว้ว่า กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process) เป็นกระบวนการแบบหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงขั้นตอนที่ทำให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ หรือพัฒนาการของความรู้ที่จะเกิดขึ้นภายในองค์กร  ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้
1. การบ่งชี้ความรู้ เช่นพิจารณาว่า วิสัยทัศน์/ พันธกิจ/ เป้าหมาย คืออะไร และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เราจำเป็นต้องรู้อะไร ขณะนี้เรามีความรู้อะไรบ้าง, อยู่ในรูปแบบใด, อยู่ที่ใคร
2. การสร้างและแสวงหาความรู้ เช่นการสร้างความรู้ใหม่, แสวงหาความรู้จากภายนอก, รักษาความรู้เก่า, กำจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว
3.การจัดความรู้ให้เป็นระบบ - เป็นการวางโครงสร้างความรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บความรู้ อย่างเป็นระบบในอนาคต
4. การประมวลและกลั่นกรองความรู้ เช่นปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เป็นมาตรฐาน, ใช้ภาษาเดียวกัน, ปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์
5. การเข้าถึงความรู้ เป็นการทำให้ผู้ใช้ความรู้นั้นเข้าถึงความรู้ที่ต้องการได้ง่ายและสะดวก เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT), Web board ,บอร์ดประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
6. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ทำได้หลายวิธีการ โดยกรณีเป็น Explicit Knowledge อาจจัดทำเป็น เอกสาร, ฐานความรู้, เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือกรณีเป็น Tacit Knowledge อาจจัดทำเป็นระบบ ทีมข้ามสายงาน, กิจกรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรม, ชุมชนแห่งการเรียนรู้, ระบบพี่เลี้ยง, การสับเปลี่ยนงาน, การยืมตัว, เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นต้น
7.การเรียนรู้ ควรทำให้การเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เช่นเกิดระบบการเรียนรู้จาก สร้างองค์ความรู้>นำความรู้ไปใช้>เกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ และหมุนเวียนต่อไปอย่างต่อเนื่อง

กระบวนการจัดการความรู้ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. Identification การกำหนดองค์ความรู้ หมายถึง การระบุว่าข้าราชการแต่ละหน้าที่หรือแต่ละกลุ่มต้องมีความรู้หลักและทักษะหลักเรื่องใดบ้างที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายผลการปฏิบัติงาน และช่วยสร้างทักษะชีวิตที่ดีในการทำงาน
2. Knowledge Acquisition การแสวงหาความรู้ หมายถึง การกำหนดแหล่งความรู้กลั่นกรองความรู้พื้นฐาน และความรู้เฉพาะทางแล้วดำเนินการรวบรวม, ดึงความรู้มาจัดเก็บไว้ในฐานความรู้ (Knowledge Center)
3. Knowledge Development การพัฒนาองค์ความรู้ หมายถึงการพัฒนาความรู้หมายถึง กระบวนการที่ข้าราชการแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มนำเอาข้อมูลสารสนเทศและความรู้ที่รวบรวมไว้มาวิเคราะห์สังเคราะห์ประเมิน ทำให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานหรือต่อยอดสร้างความรู้ใหม่เทคโนโลยีและนวัตกรรม
4. Knowledge Utilization การใช้ประโยชน์จากความรู้ หมายถึง การใช้ประโยชน์จากความรู้หมายถึง การนำความรู้ที่พัฒนาแล้วที่มีอยู่ในตัวคนหรือที่จัดเก็บไว้มาให้ข้าราชการสืบค้นตามความต้องการที่จำเป็น ได้ทันทีที่ต้องการ และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะห์ วินิจฉัย กระบวนการทำงาน การวางแผน หรือการตัดสินใจ
5. Knowledge Sharing การแบ่งปันความรู้ หมายถึง การแบ่งปันความรู้ หมายถึง การถ่ายโอน (transfer) หรือแบ่งปัน (share) ความรู้ระหว่างข้าราชการแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มด้วยกิจกรรมต่าง ๆ และสนับสนุนให้ข้าราชการมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้ ต่อยอดความและเพิ่มทักษะซึ่งกันและกัน ทำให้สามารถนำความรู้และทักษะนั้นไปปฏิบัติตามได้ทันทีและมีคุณค่ามาก
6. Knowledge Retention การรักษาความรู้ หมายถึง การเก็บรักษาความรู้ให้คงอยู่ในองค์กร เพื่อให้ข้าราชการแต่ละคน แต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงความรู้ได้ตลอดเวลา รวมทั้งการทำให้ความรู้เป็นปัจจุบันหรือทันสมัยอยู่เสมอ

ยุทธนา แซ่เตียว (2547 : 122).  กล่าวว่า ในการจัดการวามรู้นั้นก็เหมือนศาสตร์แห่งการจัดการอื่นๆ คือ มีการว่างแผนและการปฏิบัติ ในขั้นตอนการว่างแผนนั้นไม่ได้มีความแตกต่างจากการว่างแผนอื่นๆ มากนักคือมีการสำรวจสภาพปัจจุบันและการกำหนดเป้าหมาย ส่วนขั้นตอนการนำแผนงานไปปฏิบัตินั้นมีขั้นตอนที่สำคัญคือ การพัฒนาความรู้ (Knowledge Generation) และการถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer)
1. การสำรวจและการว่างแผนความรู้ การว่างแผนความรู้ก็เหมือนกับการว่างแผนอื่นๆคือ การเริ่มสำรวจสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก่อนว่าสถานะปัจจุบันในเรื่ององค์ความรู้ภายในองค์กรเป็นเช่นไร
2. การพัฒนาความรู้ (Knowledge Generation) ด้วยคำว่า “พัฒนา” อาจทำให้ฟังดูเหมือนกับว่าเราจะจำกัดความรู้ที่เกิดจากพัฒนาภายในองค์กรแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การพัฒนาในที่นี้หมายความว่า การทำการใดๆ ก็ได้เพื่อให้ความรู้เข้ามาในองค์กร การพัฒนาความรู้จากภายนอก โดยการเข้าไปซื้อหรือได้มาด้วยวิธีอื่นๆ (Acquisition) และการเช่า (Rent) ความจริงแล้วการพัฒนาความรู้เป็นวิธีที่พบได้บ่อย เช่นการซื้อหนังสือทางวิชาการ การตัดข่าวมาสรุป การเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ การหาทีมงานจากหน่วยงานภายนอกเข้ามาร่วมทีมหรือแม้กระทั่งการซื้อ Solution สำเร็จรูปจากที่ปรึกษามาช่วยออกแบบระบบงานบางอย่างหรือเครื่องมือทางการจัดการเพียงแต่ท่านไม่ต้องคิดเอง เพียงแต่ให้ข้อมูลแล้วที่ปรึกษาจะคิดให้ท่านเสร็จโดยไม่ต้องปวดหัว การพัฒนาความรู้ภายในโดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นการพัฒนาโดยหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลงานด้านนี้โดยเฉพาะ เช่น หน่วยวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นรูปแบบที่พบเห็นบ่อยๆ
3. การถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer) และการแบ่งปันความรู้(Knowledge Sharing) คือ กระบวนการที่ทำให้ความรู้ที่พัฒนา มีการแพร่กระจายไปสู่บุคลากรที่เป็นเป้าหมาย ในกระบวนการถ่ายทอดความรู้นั้นแต่ละอย่างก็มีเป้าหมายแตกต่างกันไปใน 2 ลักษณะคือ  เน้นประสิทธิภาพและเน้นประสิทธิผล

สรุปได้ว่า
กระบวนการจัดการความรู้จะต้องมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.  การกำหนดองค์ความรู้ หมายถึง การระบุว่าข้าราชการแต่ละหน้าที่หรือแต่ละกลุ่มต้องมีความรู้หลักและทักษะหลักเรื่องใดบ้างที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายผลการปฏิบัติงาน และช่วยสร้างทักษะชีวิตที่ดีในการทำงาน
2. การแสวงหาความรู้ หมายถึง การกำหนดแหล่งความรู้กลั่นกรองความรู้พื้นฐาน และความรู้เฉพาะทางแล้วดำเนินการรวบรวม
3. การพัฒนาองค์ความรู้ หมายถึงการพัฒนาความรู้หมายถึง กระบวนการที่ข้าราชการแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มนำเอาข้อมูลสารสนเทศและความรู้ที่รวบรวมไว้มาวิเคราะห์สังเคราะห์ประเมิน ทำให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานหรือต่อยอดสร้างความรู้ใหม่เทคโนโลยีและนวัตกรรม
4. การใช้ประโยชน์จากความรู้ หมายถึง การใช้ประโยชน์จากความรู้หมายถึง การนำความรู้ที่พัฒนาแล้วที่มีอยู่ในตัวคนหรือที่จัดเก็บไว้มาให้ข้าราชการสืบค้นตามความต้องการที่จำเป็น ได้ทันทีที่ต้องการ และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะห์ วินิจฉัย กระบวนการทำงาน การวางแผน หรือการตัดสินใจ
5. การแบ่งปันความรู้ หมายถึง การแบ่งปันความรู้ หมายถึง การถ่ายโอน (transfer) หรือแบ่งปัน (share) ความรู้ระหว่างข้าราชการแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มด้วยกิจกรรมต่าง ๆ และสนับสนุนให้ข้าราชการมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้ ต่อยอดความและเพิ่มทักษะซึ่งกันและกัน ทำให้สามารถนำความรู้และทักษะนั้นไปปฏิบัติตามได้ทันทีและมีคุณค่ามาก
6. การรักษาความรู้ หมายถึง การเก็บรักษาความรู้ให้คงอยู่ในองค์กร เพื่อให้ข้าราชการแต่ละคน แต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงความรู้ได้ตลอดเวลา รวมทั้งการทำให้ความรู้เป็นปัจจุบันหรือทันสมัยอยู่เสมอ

อ้างอิง
http://203.157.19.120/km_ict/?p=392 .  สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม  2556.


          ยุทธนา แซ่เตียว. (2547). การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้สร้างองค์กรอัจฉริยะ กรุงเทพฯ : สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น